ฺBe Management Coach by Khanittha

นอกจาก passion เรื่องการโค้ชแล้ว มีอีกเรื่องที่เป็นสิ่งที่โค้ชทำแล้วมีความสุขมากๆ อีกเช่นกัน นั่นคือการเขียน แม้จะยังต้องพัฒนาไปอีกเรื่อยๆ ยังไม่ออกมาเป็นหนังสือ ก็เลยออกมาเป็น Mini Coaching Notebook เล่ม2 "ถามแบบผู้นำ..ทำได้ใน 3 นาที" ไปพลางก่อน เอาไว้แจกเพื่อนฝูง โค้ชชี่ ผู้เข้าอบรม และลูกค้าค่ะ ^^ . ล่าสุด ดีใจที่คุณหมอ พล.ท.นพ.มาโนชญ์ จันทรศร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา อ่านแล้วสนใจ มาพูดคุยสอบถามรายละเอียดเรื่อง Ikigai และคุณหมอยังเล่าให้ฟังด้วยว่าตนเองโชคดีที่เลือกได้ ได้ทำงานที่รักเป็นส่วนใหญ่ และในวันสุดท้ายของการสัมมนา คุณหมอก็ได้ตอกย้ำให้ผู้เข้าอบรมทุกคนที่ได้รับสมุดนี้ ให้กลับไปอ่านกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง Ikigai เพื่อให้เข้าใจแนวทางที่จะมีความสุขในการตื่นมาทำงานในทุกๆวัน  :) . หากท่านใดสนใจรับสมุดเล่มนี้ ซึ่งมีบทความที่เป็นคำถามดีๆ  ตัวอย่างการโค้ชผู้บริหาร  ตัวอย่างการโค้ชธุรกิจ และตัวอย่างการโค้ชเพื่อค้นหาเป้าหมายชีวิต สามารถเข้าไปกรอกข้อมูลติดต่อในเว็บไซต์ได้เลยค่ะ http://bemanagementcoach.com/contact/ . WWW.BEMANAGE

โค้ชใช้เครื่องมือวงล้อแห่งอารม ณ์ (wheel of emotion) เพื่อโค้ชให้กับผู้บริหา ร Engineer ท่านนึง . ระหว่างพูดคุยก็ให้โค้ชชี่ส ำรวจวงล้อแห่งอารมณ์ ปรากฏว่าโค้ชชี่สามารถให้ชื ่อ (naming) หรือกำหนดชื่อของอารมณ์ที่โ ค้ชชี่กำลังรู้สึก กับเรื่องราวประเด็นที่กำลั งโค้ชกันอยู่ ในที่นี้คือ ความอึดอัดใจ รำคาญใจ กับหัวหน้างานที่เป็นผู้บริ หารระดับสูง ที่ไม่ค่อยยอมฟังความคิดเห็ นของโค้ชชี่หรือใครๆ พอโค้ชถามว่ามันเกี่ยวข้องก ับเป้าหมาย หรือสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จ อย่างไรบ้าง (reframing) ก็ทำให้โค้ชชี่ตระหนักได้ว่ า ตนเองอยากรู้สึกเป็นคนสำคัญ อยากสร้างทีมงานใหม่ทีมนี้ใ ห้สำเร็จ อยากให้ทีมงานเป็นที่ยอมรับ และสุดท้ายจะได้เกิดความภาค ภูมิใจต่อตนเอง ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องอึดอัดใ จ รำคาญใจอะไรกับหัวหน้าท่านน ั้น เนื่องจากมีแผนงานหลายๆ อย่างเตรียมไว้อยู่แล้ว . ไม่น่าเชื่อว่าอารมณ์ความรู ้สึกที่โค้ชชี่พูดมา มันลิสท์อยู่ในวงล้อแบบมีคว ามเชื่อมโยงกันจริงๆ!!! . การเข้าใจและสามารถแยกแยะ อารมณ์ความรู้สึก (feeling) ออกจากเรื่องจริง (fact) ก็เปรียบเสมือนการมีสติระลึ กรู้ตัว (mindfulness) เพื่อสามารถตัดสิ่งรบกวนที่

วันนี้เจอโค้ชชี่คนเก่งที่ต้องการพัฒนาตัวเอง ในด้านภาวะผู้นำ ไฟแรงมาก มีจุดแข็ง 1 ใน 5 เรื่อง เป็นผู้ใฝ่รู้ ( Learner) เป็นคนที่ทำงานได้ดี หัวหน้าไว้วางใจ สอนและโค้ชให้ทีมงานได้ดี ลูกน้องก็ทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายได้ตามความคาดหวัง . เค้ารู้สึกอึดอัดใจที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้พัฒนาตัวเอง เหมือนอยู่กินเงินเดือนไปวันๆ แล้วไฟกำลังจะมอด เพราะว่าหัวหน้าคนปัจจุบันอาจจะไม่ได้ถ่ายทอดความรู้ หรือเป็นโค้ชให้ได้เหมือนกับหัวหน้าท่านที่ผ่านมา . ในการโค้ชทุกครั้งโค้ชชี่จะพูดชื่นชมนายคนเก่า แต่พอถามว่าอยากพัฒนาเรื่องอะไร ก็อาจจะยังตอบไม่ได้ว่าตัวเองยังต้องการอะไรอีก . หลังจากการโค้ชเพื่อหาวิธีการต่างๆ แล้ว โค้ชให้การบ้านไปพยายามหาวิธีการเรียนรู้ ในการพัฒนาภาวะผู้นำของตนเอง โดยที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบ ว่าต้องมีหัวหน้ามาสอนให้เท่านั้น รวมถึงไปหาว่าหัวข้อไหนในเรื่องของภาวะผู้นำ ที่ตัวเองรู้สึกว่าอยากพัฒนาเป็นพิเศษ เพื่อให้เขาเข้าใจตนเองมากยิ่งขึ้น ไม่ติดกรอบข้อจำกัดความคิดเดิมๆ . WWW.BEMANAGEMENTCOACH.COM www.facebook.com/coachAcoach # โค้ชบีขนิษฐา

สวัสดีเดือนมีนาคมหน้าร้อนนนนนนนมากกกกกกของไทยค่ะ ^^" วันนี้โค้ชมีเคสตัวอย่างการ Coaching มาแบ่งปันให้ทุกท่านลองพิจารณาดูค่ะ . โค้ชชี่ท่านนึงเพิ่งได้รับการโปรโมทย้ายมาคุมอีกทีมนึง ตั้งเป้าหมายว่าต้องการเพิ่มความมั่นใจในบทบาทใหม่ เพื่อบริหารทีมให้ส่งมอบผลงานได้ตาม KPI  หรือเป้าหมายประจำปี จากมั่นใจ 80 เป็น 100%  ให้ได้ภายใน 6 เดือน . โค้ชชี่คิดวิธีการต่างๆ เช่น วางแผนปรับปรุงกระบวนการผลิต หาเครื่องมือวัดผลเพื่อให้สามารถวัดผล ได้อย่างเป็นรูปธรรม มอบหมายงานใหม่ๆ ให้ทีมงานได้พัฒนาทักษะ และความสามารถ เพื่อให้ได้รับการโปรโมท x คนในปีนี้ . ฟังดูก็เหมือนแผนการบริหารงานทั่วๆไป แต่มีอีกเรื่องที่น่าสนใจ คือ... พอโค้ชให้ลองเลือกภาพต่างๆ จาก coaching card เพื่อทำให้คิดหาวิธีการเพิ่มเติม . เค้าเลือกภาพนี้ และบอกว่า เค้าสังเกตเห็นว่า สมาชิกในทีมมีความแตกแยก มีน้องคนนึงที่ดูโดดเดี่ยว ดูไม่มีความสุข ทำให้โค้ชชี่คิดได้ว่า ... ต้องการสร้างบรรยากาศทีมให้ดีขึ้น ให้มีความกลมเกลียวเป็นทีมเวิร์ก เพื่อทุกคนจะได้มีความสุขในการมาทำงานทุกวัน พูดคุยกัน ช่วยเหลือกัน และสุดท้าย เป้าหมายงานก็ไม่น่ายากจนเ