สติ สำหรับผู้นำ
นับตั้งแต่คุณวิกรมได้บวชให้คุณแม่ของท่านเมื่อตอนอายุ 50 ปี (ปัจจุบันอายุ 62 ปี) รูปแบบและแนวทางการดำรงชีวิตก็เปลี่ยนไป ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติและความสงบมากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะช่วยบริษัทวางเป้าหมาย นโยบายและช่วยแก้ไขปัญหาเป็นครั้งคราวเท่านั้น เนื่องจากไว้วางใจในทีมงานที่มีความสามารถและระบบที่ดีขององค์กร
เมื่อสิบกว่าปีก่อน คุณวิกรมบอกว่าเค้ายังไม่ได้เป็นคนที่สุขุมละเอียดรอบคอบแต่อย่างใด บางครั้งก็บริหารชีวิตด้วย "อารมณ์" หลายครั้งจึงเกิดความเสียใจและเสียหายต่อตนเองและคนใกล้ตัว
จนเมื่อคุณวิกรมได้ตระหนักรู้ว่าการใช้อารมณ์เพื่อแก้ไขปัญหานั้นไม่เกิดประโยชน์ใดๆ จึงเริ่มที่จะหันมาใช้ "สติ" กำกับในการตัดสินใจก่อนทำเรื่องต่างๆ มากขึ้น เมื่อได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องและไม่เบียดเบียนตัวเองและคนรอบข้าง จึงเกิดความสุขขึ้นอย่างแท้จริง ดังเช่นหลักในพระพุทธศาสนาที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนให้มนุษย์เราเฝ้าตามดู “จิต” ที่เต็มไปด้วยกิเลสของตนเอง การแก้ปัญหาต่างๆ ต้องเริ่มที่มองให้เห็นตามความเป็นจริงและรู้จักกิเลสในใจของเราก่อน รู้เหตุแห่งทุกข์และหนทางในการดับทุกข์เพื่อความสงบสุขในจิตใจเรานั่นเอง
**********
โค้ชบี ขนิษฐา หล่อลักษณ์ โค้ชผู้บริหาร/โค้ชผู้นำ และที่ปรึกษาการสร้างวัฒนธรรมการโค้ชในองค์กร ได้รับวุฒิบัตรรับรองการโค้ชระดับ Associate Certified Coach (ACC) จากสหพันธ์โค้ชนานาชาติ (International Coach Federation หรือ ICF)
กดไลค์เพื่อติดตามบทความทุกวันได้ที่https://www.facebook.com/CoachACoach
โค้ชบี ขนิษฐา หล่อลักษณ์ โค้ชผู้บริหาร/โค้ชผู้นำ และที่ปรึกษาการสร้างวัฒนธรรมการโค้ชในองค์กร ได้รับวุฒิบัตรรับรองการโค้ชระดับ Associate Certified Coach (ACC) จากสหพันธ์โค้ชนานาชาติ (International Coach Federation หรือ ICF)
กดไลค์เพื่อติดตามบทความทุกวันได้ที่https://www.facebook.com/CoachACoach
หรือติดตามบล็อกได้ที่ http://bemanagementcoach.blogspot.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น