Race ต้องกล้าวิ่ง!!
ดูหนังเรื่อง "Race ต้องกล้าวิ่ง" .. สนุกมากๆ ใครชอบดูกีฬาห้ามพลาดนะคะ
เรื่องจริงของนักวิ่งผิวสี เจซซี่ โอเว่นส์ นักวิ่งทำลายสถิติโลกเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกที่เบอร์ลิน เยอรมนี 4 รายการ กับโค้ชแลรี่ผิวขาว อดีตนักวิ่งเจ้าของสถิติโลกหลายรายการ .. ในยุคที่อเมริกายังมีการเหยียดผิว
บทเรียนและข้อคิดจากหนัง:
1. โค้ชแลรี่ไม่เชื่อในพรสวรรค์ แต่เชื่อมั่นในการฝึกซ้อมๆๆ ว่าจะทำให้นักกีฬาได้เหรียญทองได้
2. บางครั้งคนเราต้องเลือกการตัดสินใจระหว่างเหตุผลส่วนตัว เหตุผลของกลุ่มคนผิวสี และเหตุผลส่วนรวมคือประเทศชาติ .. รูธ ภรรยาของเจซซี่บอกให้เจซซี่ฟังเสียงหัวใจของตนเองในการตัดสินใจ .. สุดท้าย เมื่อเลือกแล้วก็ต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
3. หากคุณเคยวิ่ง ในช่วงการวิ่ง 10 วินาทีนั้น คุณจะเป็นอิสระอย่างแท้จริง .. ไม่สนใจเรื่องชื่อเสียงเงินทอง ขาวหรือดำ มีก็แค่ช้าหรือเร็ว
4. แลรี่เป็นโค้ชที่ทุ่มเทสนับสนุนเจซซี่ในหลายๆ อย่างนอกเหนือจากเรื่องฝึกสอน ทั้งเรื่องรายได้เพื่อส่งให้ลูกสาว ช่วยชี้แนะแนวทางปัญหาเรื่องผู้หญิงที่เจซซี่หลงผิดไป จ่ายค่าเดินทางเองเพื่อตามไปดูแลเจซซี่ที่เบอร์ลิน ซื้อรองเท้าวิ่งดีๆ ให้
5. โค้ชได้ฝึกสอนเจซซี่ในสนาม “ไม่มีช่องว่างสำหรับความผิดพลาด ทุกเสี้ยววินาทีของวินาทีมีค่า ..ในการออกตัวสำคัญที่สุด .. ทำตัวเป็นกระสุนปืนวิ่งเข้าหากำแพงอิฐ.. ให้ออกตัวต่ำๆ ค่อยๆ ทะยานขึ้นเหมือนเครื่องบิน ยิ่งต่ำเท่าไหร่ยิ่งอยู่ได้นานขึ้น บินต่ำๆ แรงต้านจะน้อย”
6. โค้ชสอนเจซซี่ ไม่ให้เสียสมาธิ ในเวลาที่พวกนักกีฬาฟุตบอลผิวขาวพูดล้อเลียน โดยในห้องล็อคเกอร์โค้ชได้แสดงให้เห็นว่าโค้ชก็ไม่สนใจเสียงนกเสียงกาของโค้ชอีกคนนึงและนักกีฬาผิวขาวเหล่านั้น จนทำให้เจซซี่เข้าใจและมั่นใจมากขึ้น
7. ”พวกเขาจะรักหรือเกลียดนายไม่สำคัญ ในเมื่อนายอยู่ตรงนั้นแล้ว นายต้องสู้ด้วยตนเอง”
8. อเมริกาต่อต้านเยอรมันที่แบ่งแยกชาวยิว แต่สุดท้ายแล้ว ถึงแม้เจซซี่จะได้รับเหรียญทองโอลิมปิกกลับมา ในปี 1936 ทางการจัดงานเลี้ยงให้ แต่เจซซี่กับภรรยาชาวผิวสีก็ต้องเดินเข้าอาคารจัดงานด้วยประตูของคนงาน เพราะเป็นกฎเกณฑ์ของสถานที่แห่งนั้น
ขอขอบคุณภาพจาก http://t3.gstatic.com/
++++++++++
++++++++++
โค้ชบี ขนิษฐา หล่อลักษณ์ โค้ชผู้บริหาร/โค้ชผู้นำ และที่ปรึกษาการพัฒนาองค์กรและการสร้างวัฒนธรรมการโค้ชในองค์กร ได้รับวุฒิบัตรรับรองการโค้ชระดับ Associate Certified Coach (ACC) จากสหพันธ์โค้ชนานาชาติ (International Coach Federation หรือ ICF)
กดไลค์เพื่อติดตามบทความได้ที่
www.facebook.com/CoachACoach
www.facebook.com/CoachACoach
หรือติดตามบล็อกได้ที่ http://bemanagementcoach.blogspot.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น