Braveheart
“คนทุกคนต้องตาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีชีวิตอยู่อย่างแท้จริง” - วิลเลียม วอลเลซ
.
มีภาพยนตร์คลาสสิคดีๆ หลายเรื่องที่ให้อรรถรสความบันเทิงแล้วยังสามารถสื่อถึงเรื่องความเป็นผู้นำได้ดี หนึ่งในนั้นคือเรื่อง Braveheart วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ .. เอ๊ะ.. มีหนังชื่อนี้ด้วยเหรอ ไม่คุ้นเลยเนอะ แต่คุณแม่เล่าให้ฟังน่ะค่ะ grin emoticon (ขอยืมมุกอาจารย์ท่านนึงมาใช้นะคะ;)
.
Braveheart เป็นหนัง แอ็คชั่น ดราม่า ประวัติศาสตร์ ออกฉายในปี 1995 สร้าง กำกับ และนำแสดง โดย เมล กิบสัน รับบทเป็น วิลเลียม วอลเลซ อัศวินชาวสก็อตแลนด์ที่ปลุกระดมชาวสก็อตแลนด์ให้ปลดตนเองออกจากการเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษซึ่งมีพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษเป็นผู้ปกครอง ณ ขณะนั้น วอลเลซปลุกระดมชาวสก็อตแลนด์จำนวนมากและตั้งกองทัพขึ้นเพื่อต่อสู้กับกองทัพอังกฤษที่มีจำนวนมากมายกว่าหลายเท่า
.
หัวใจของเรื่องนี้ที่ทำให้ยิ่งดูยิ่งซาบซึ้งและประทับใจหลายคนคงเป็นเพราะความพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อทุกคนและเพื่ออุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ในอิสรภาพ จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
.
ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถคว้ารางวัลออสการ์ในปีนั้นมาครองได้ถึง 5 รางวัล คือ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม สาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม สาขาแต่งหน้ายอดเยี่ยม และยังมีภาพยนตร์อีกหลายๆ เรื่องนำไปเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างอีกด้วย เช่น Gladiator, Troy เป็นต้น
.
แง่คิดด้านความเป็นผู้นำของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่โดดเด่นมากคงเป็นเรื่องความกล้าหาญตามชื่อเรื่อง ...
1. การต่อสู้เพื่ออิสรภาพนั้นต้องทุ่มเททุกสิ่งแม้กระทั่งชีวิต
อิสรภาพมาพร้อมกับราคาและคุณต้องพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อมัน อิสรภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าชีวิตของพวกเขา
.
มีภาพยนตร์คลาสสิคดีๆ หลายเรื่องที่ให้อรรถรสความบันเทิงแล้วยังสามารถสื่อถึงเรื่องความเป็นผู้นำได้ดี หนึ่งในนั้นคือเรื่อง Braveheart วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ .. เอ๊ะ.. มีหนังชื่อนี้ด้วยเหรอ ไม่คุ้นเลยเนอะ แต่คุณแม่เล่าให้ฟังน่ะค่ะ grin emoticon (ขอยืมมุกอาจารย์ท่านนึงมาใช้นะคะ;)
.
Braveheart เป็นหนัง แอ็คชั่น ดราม่า ประวัติศาสตร์ ออกฉายในปี 1995 สร้าง กำกับ และนำแสดง โดย เมล กิบสัน รับบทเป็น วิลเลียม วอลเลซ อัศวินชาวสก็อตแลนด์ที่ปลุกระดมชาวสก็อตแลนด์ให้ปลดตนเองออกจากการเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษซึ่งมีพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษเป็นผู้ปกครอง ณ ขณะนั้น วอลเลซปลุกระดมชาวสก็อตแลนด์จำนวนมากและตั้งกองทัพขึ้นเพื่อต่อสู้กับกองทัพอังกฤษที่มีจำนวนมากมายกว่าหลายเท่า
.
หัวใจของเรื่องนี้ที่ทำให้ยิ่งดูยิ่งซาบซึ้งและประทับใจหลายคนคงเป็นเพราะความพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อทุกคนและเพื่ออุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ในอิสรภาพ จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
.
ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถคว้ารางวัลออสการ์ในปีนั้นมาครองได้ถึง 5 รางวัล คือ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม สาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม สาขาแต่งหน้ายอดเยี่ยม และยังมีภาพยนตร์อีกหลายๆ เรื่องนำไปเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างอีกด้วย เช่น Gladiator, Troy เป็นต้น
.
แง่คิดด้านความเป็นผู้นำของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่โดดเด่นมากคงเป็นเรื่องความกล้าหาญตามชื่อเรื่อง ...
1. การต่อสู้เพื่ออิสรภาพนั้นต้องทุ่มเททุกสิ่งแม้กระทั่งชีวิต
อิสรภาพมาพร้อมกับราคาและคุณต้องพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อมัน อิสรภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าชีวิตของพวกเขา
2. อย่ายอมลดละค่านิยมของคุณ
ถึงแม้พระเอกจะถูกจับตัวส่งไปยังอังกฤษ แต่เขาไม่เคยยอมจำนนให้แก่ฝ่ายตรงข้ามจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของเขา เขาเชื่อในทุกสิ่งที่เขาได้พูดเอาไว้
ถึงแม้พระเอกจะถูกจับตัวส่งไปยังอังกฤษ แต่เขาไม่เคยยอมจำนนให้แก่ฝ่ายตรงข้ามจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของเขา เขาเชื่อในทุกสิ่งที่เขาได้พูดเอาไว้
3. ทุกคนจะต้องตายในที่สุด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริง
การเลือกที่จะอยู่ในแต่ละวันนั้นเป็น “ทางเลือก” แต่ในที่สุดแล้ว พวกเราทุกคนก็จะต้องตาย ดังนั้นเราจึงไม่ควรปล่อยให้ความกลัวตายมาหยุดเราจากการใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ
.
ช่างเป็นพระเอกที่กล้าหาญสมชื่อเรื่องจริงๆ ค่ะ
.
กลับมาสู่โลกความเป็นจริงในปัจจุบันดูบ้าง เราได้ใช้ชีวิตแบบที่เราต้องการแล้วหรือยัง เราได้ต่อสู้เพื่อตัวเรา ทีมงานและองค์กรของเราบ้างหรือเปล่า เราได้ใช้ชีวิตตามค่านิยมของเรามั๊ย … ถ้ายัง เรากล้าที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงเพื่อใช้ชีวิตอยู่อย่างแท้จริงหรือยังคะ?
.
Cr.ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ impawards.com
**********
“โค้ชบี” ขนิษฐา หล่อลักษณ์ โค้ชผู้บริหาร / โค้ชผู้นำ และที่ปรึกษาการสร้างวัฒนธรรมการโค้ชในองค์กร ได้รับวุฒิบัตรรับรองการโค้ชระดับ Associate Certified Coach (ACC) จากสหพันธ์โค้ชนานาชาติ (International Coach Federation หรือ ICF)
การเลือกที่จะอยู่ในแต่ละวันนั้นเป็น “ทางเลือก” แต่ในที่สุดแล้ว พวกเราทุกคนก็จะต้องตาย ดังนั้นเราจึงไม่ควรปล่อยให้ความกลัวตายมาหยุดเราจากการใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ
.
ช่างเป็นพระเอกที่กล้าหาญสมชื่อเรื่องจริงๆ ค่ะ
.
กลับมาสู่โลกความเป็นจริงในปัจจุบันดูบ้าง เราได้ใช้ชีวิตแบบที่เราต้องการแล้วหรือยัง เราได้ต่อสู้เพื่อตัวเรา ทีมงานและองค์กรของเราบ้างหรือเปล่า เราได้ใช้ชีวิตตามค่านิยมของเรามั๊ย … ถ้ายัง เรากล้าที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงเพื่อใช้ชีวิตอยู่อย่างแท้จริงหรือยังคะ?
.
Cr.ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ impawards.com
**********
“โค้ชบี” ขนิษฐา หล่อลักษณ์ โค้ชผู้บริหาร / โค้ชผู้นำ และที่ปรึกษาการสร้างวัฒนธรรมการโค้ชในองค์กร ได้รับวุฒิบัตรรับรองการโค้ชระดับ Associate Certified Coach (ACC) จากสหพันธ์โค้ชนานาชาติ (International Coach Federation หรือ ICF)
เฟซบุ๊คแฟนเพจ https://www.facebook.com/CoachACoach
และติดตามบล็อกได้ที่ http://bemanagementcoach.blogspot.com
และติดตามบล็อกได้ที่ http://bemanagementcoach.blogspot.com

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น